ลานโพธิ์: ที่มั่นแห่งแรกสู้เพื่อเอาประชาชนคืนมา
นับจากช่วงสายของวันที่ 8 ตุลาคม ขบวนการนักศึกษาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยก็เริ่มต้นขับเคลื่อน หลังจากการประสานงานกันระหว่างนิสิต นักศึกษากลุ่มต่างๆ ที่วิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒปัจจุบัน) มีนักศึกษาจำนวนมากชุมนุมเรียกร้องรัฐธรรมนูญอย่างเปิดเผยภายในรั้ววิทยาลัย
ในเวลาเดียวกันที่จังหวัดเชียงใหม่มีการโปรยใบปลิวไปทั่วเขตตัวเมือง รวมทั้งปิดโปสเตอร์ตามถนนสายหลักต่างๆ มีข้อความสนับสนุนกลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญ พร้อมกับโจมตีรัฐบาล นายกสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่แถลงว่ากำลังติดตามข่าวและจะส่งผู้แทนนักศึกษามาร่วมหารือกับศูนย์ที่กรุงเทพฯ
ช่วงบ่ายจอมพลประภาส จารุเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงมหาดไทย ครั้งที่ 28/2516 เรื่อง "การจับกุมกลุ่มบุคคลผู้เรียกร้องให้มีกฎหมายรัฐธรรมนูญ" ทั้งนี้ เนื้อหาในการประชุมสรุปสถานการณ์ จอมพลประภาสได้เท้าความการเคลื่อนไหวของนิสิต นักศึกษา นับตั้งแต่กรณีประท้วง ดร.ศักดิ์ ผาสุขนิรันดร์ การลบชื่อ 9 นักศึกษาออกจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง จนถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ว่าถูกบงการโดยคอมมิวนิสต์จากต่างประเทศเข้ามาแทรกแซง โดยย้ำกับที่ประชุมว่า "เชื่อว่านิสิต นักศึกษาจะเสียไปราว 2% จากจำนวนเป็นแสนคน จำต้องเสียสละเพื่อความอยู่รอดของบ้านเมือง"
ทันทีที่เสร็จสิ้นการประชุมกรมตำรวจ (ในขณะนั้นมีฐานะเป็นกรม สังกัดกระทรวงมหาดไทย) มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลทั้งหมด รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองปราบปรามและสันติบาลเตรียมพร้อมเต็มอัตรา
จากช่วงเช้ามืดของวันที่ 9 ตุลาคม นักศึกษาธรรมศาสตร์ระดมกำลังกันช่วยติดโปสเตอร์ทุกประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย และตึกเรียนทุกตึกถูกปิดตาย มีโปสเตอร์ "งดสอบ ไปรวมกันที่ลานโพธิ์" ติดทั่วมหาวิทยาลัย ชักชวนให้นักศึกษาไปร่วมกันประท้วงที่ลานโพธิ์ หน้าตึกคณะศิลปศาสตร์ และประณามการกระทำของรัฐบาลอย่างเปิดเผย โดยเฉพาะประตูด้านท่าพระจันทร์มีผ้าผืนใหญ่เขียนข้อความว่า "เอาประชาชนคืนมา" ที่ลานโพธิ์ด้านหลังเวทีอภิปรายมีข้อความว่า "ต้องการรัฐธรรมนูญเป็นกบฏหรือ" ส่วนประตูด้านสนามหลวงมีแผ่นผ้าเขียนว่า "ธรรมศาสตร์ตายเสียแล้วหรือ" ฯลฯ
หลัง 08.00 น. จำนวนนักศึกษาเพิ่มขึ้นจนเต็มลานโพธิ์ มีการลดธงชาติลง และชักธงดำขึ้นสู่ยอดเสาแทน แต่ ศ.อดุลย์ วิเชียรเจริญ คณบดีคณะศิลปศาสตร์ ได้ขอร้องให้ชักธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา ซึ่งนักศึกษาก็ยอมปฏิบัติตาม เมื่อใกล้เวลา 10.00 น. มีนักศึกษามาชุมนุมประมาณเกือบ 1,000 คน ทาง อมธ. ได้เริ่มรับบริจาคเงินในการต่อสู้ด้วย ในขณะที่นักศึกษาวิชาการศึกษาประสานมิตรประมาณพันกว่าคนได้เข้าไปชุมนุมกันในหอประชุมใหญ่ ตัวแทนนักศึกษาผลัดกันขึ้นโจมตีระบอบเผด็จการ "ถนอม-ประภาส" และการคอร์รัปชันตลอดเวลา พร้อมกับออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยผู้ต้องหาทั้งหมดภายในวันที่ 13 ตุลาคม และให้รัฐบาลประกาศใช้รัฐธรรมนูญในวันที่ 10 ธันวาคม 2516 ส่วนทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ "กลุ่มนักศึกษาผู้รักชาติ" ออกแถลงการณ์ในทำนองเดียวกัน พร้อมทั้งมีโปสเตอร์ชักชวนว่า "เราจะพบกันที่กรุงเทพฯ"
เวลา 10.30 น. นายไขแสง สุกใส เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลที่กองบังคับตำรวจสันติบาล 2 และกล่าวว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ จะเอาไปประหารชีวิตก็ยอม
ส่วนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง นักศึกษาประมาณ 2,000 คนรวมตัวชุมนุมกันที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหง เรียกร้องให้มหาวิทยาลัยรามคำแหงเลื่อนการสอบประจำภาค และประกาศจะชุมนุมกันทุกวันจนกว่ารัฐบาลจะปล่อยตัวผู้ถูกจับกุม
นอกจากนั้นด้านเวทีอภิปรายบริเวณลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นิสิต นักศึกษา จากวิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมการไฮปาร์ค
จนถึงเวลา 15.30 น. คณาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 205 คน ซึ่งประชุมกันตั้งแต่ตอนเช้ามีมติเป็นเอกฉันท์ทำหนังสือด่วนมากถึงจอมพลถนอม กิตติขจร เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้เรียกร้องรัฐธรรมนูญทั้งหมดโดยด่วนอย่างไม่มีเงื่อนไข ในขณะเดียวกันนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลและวิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร เริ่มทยอยเข้ามาสมทบที่ลานโพธิ์ ส่วนสโมสรนิสิตจุฬาฯแถลงว่าจะร่วมต่อสู้กับองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในวันที่ 12 ตุลาคม 2516 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการสอบประจำภาคของนิสิตส่วนใหญ่ รวมทั้งนักศึกษาแพทยศาสตร์ศิริราชข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาตั้งหน่วยแพทย์อาสา สมัคร
และเหมือนเป็นการยั่วยุ ซึ่งสะท้อนจิตสำนึกของ "เผด็จการ" ที่ไม่เคยตระหนักถึงการเรียกร้องความต้องการอย่างบริสุทธิ์ใจของนิสิต นักศึกษา ตลอดจนประชาชนที่ต้องการประชาธิปไตยและความเป็นธรรม ในเวลา 16.45 น. จอมพลถนอมมีคำสั่งโดยมติของคณะรัฐมนตรีให้ใช้อำนาจ ม.17 สั่งควบคุมตัวนายไขแสง สุกใส กับพวกไว้จนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น ในเวลาไล่เรี่ยกันภายหลังการประชุมคณบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายสัญญา ธรรมศักดิ์ อธิการบดี ได้ออกประกาศของมหาวิทยาลัยเลื่อนการสอบภาคแรกออกไปจนกว่าเหตุการณ์จะกลับคืนสู่ภาวะปรกติ
เท่ากับเป็นการเริ่มต้นถึงสัญญาณของ "ไม่ชนะไม่เลิก" ของทั้ง 2 ฝ่าย คือฝ่ายรัฐบาลเผด็จการคณะปฏิวัติ และฝ่ายที่ต้องการประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ ที่ก่อตัวโดยคนหนุ่มสาวนิสิต นักศึกษา และนักเรียนที่มีลักษณะทั่วประเทศ จำนวนนักศึกษาในช่วงเย็นเริ่มขยับจากพันเป็นหมื่น และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่ส่วนกลางกำลังชุมนุมกันแสดงปฏิกิริยาประท้วงการจับกุมผู้เรียกร้องรัฐธรรมนูญอย่างตึงเครียด ในส่วนของภูมิภาคการขับเคลื่อนสนับสนุนการชุมนุมของนักศึกษาก็ขยายวงกว้างออกไป โดยเริ่มจากจังหวัดที่เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาของรัฐทุกจังหวัด
เวลา 20.00 น. สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์ของรัฐบาลระบุว่าบุคคล ทั้ง 13 คนที่ถูกตำรวจจับกุมมีแผนล้มล้างรัฐบาล และเหตุผลในการจับกุม "ไม่ใช่เพราะเรียกร้องรัฐธรรมนูญ แต่จับกุมในฐานะมีการกระทำอันเป็นภัยต่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชน"
พิมพ์ครั้งแรก โลกวันนี้ ฉบับวันสุข วันที่ 5-11 ธันวาคม 2552
คอลัมน์ พายเรือในอ่าง ผู้เขียน อริน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น